|
 |
|
|
|
|
บทความหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน (24 มีนาคม 2527)
นิคม จันทรวิทุร ระดมกำลังสติปัญญาช่วยแก้ปัญหารัฐวิสาหกิจ
|
ข้อความข้างต้นคือพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 18 มีนาคม 2527 ซึ่งเกี่ยวกับทางราชการจะจัดให้มีการประชุมพิจารณาเรื่องรัฐวิสาหกิจที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 30 มีนาคมศกนี้ ผู้เขียนใคร่ที่จะมีส่วนแสดงความคิดเห็นบางประการ เพื่อสนองตอบเจตนาดีของรัฐบาลโดยเฉพาะในการเตรียมการครั้งนี้
ข่าวหนังสือพิมพ์มติชนแจ้งว่ารัฐบาลจะได้เชิญปลัดกระทรวง ประธานกรรมการ ผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจ ผู้แทนภาคเอกชน นักวิชาการ สื่อมวลชน เป็นจำนวนร้อยเพื่อให้ข้อคิดเห็น ข่าวดังกล่าวไม่ได้พูดถึงผู้แทนพนักงานและคนงานรัฐวิสาหกิจ
ผู้เขียนเข้าใจว่าข่าวคงจะตกหล่นไปและมั่นใจว่าทางราชการคงจะได้เชิญผู้แทนพนักงาน และคนงานบางส่วนด้วย เพราะบุคคลเหล่านี้สามารถให้ข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ได้บ้าง โดยเฉพาะปัญหาต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาเอง
เกี่ยวกับการจัดโปรแกรมซึ่งทราบว่ามีเพียงครึ่งวัน ผู้จัดคงจะให้โอกาสผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งมีจำนวนมากได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างทั่วถึง ปัญหาหลักและปัญหาใหญ่ของรัฐวิสาหกิจก็เป็นที่รู้ ๆ กัน และมีการประชุมกันหลายครั้งแล้ว ฉะนั้นพิธีการบรรยายหรือให้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ควรจะใช้เวลาเพียงเล็กน้อย โดยเหลือเวลาสำหรับผู้ที่เข้าร่วมประชุมจะไดแสดงทรรศนะและบอกเล่าถึงความลึกซึ่งของปัญหาให้มาก ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางราชการควรจะได้รับฟังจากการประชุมคราวนี้
หนังสือพิมพ์มติชนรายงานว่า การประชุมครั้งนี้มุ่งให้เป็นการอภิปรายครั้งใหญ่ โดยมีจุดประสงค์ให้ทุกฝ่ายระดมกำลัง สติปัญญาช่วยกันแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจให้ได้ผลอย่างจริงจัง ผู้เขียนหวังว่า ปัญหาสำคัญอันหนึ่งก็คงจะเกี่ยวกับเรื่องการโอนหรือขายรัฐวิสาหกิจให้แก่เอกชน เพราะเรื่องนี้ประชาชนได้ให้ความสนใจมาก ทั้งพนักงานและคนงานรัฐวิสาหกิจบางส่วนก็แสดงความห่วงใยอยู่
จากการประชุมคราวนี้ก็เป็นที่หวังว่าประชาชนจะได้ทราบรายละเอียดพอสมควรว่าจะมีการขายหรือโอนรัฐวิสาหกิจรายไหน เงื่อนไขต่างๆ เป็นอย่างไร ทางราชการได้ผลประโยชน์หรือการขาดผลประโยชน์อย่างไร
ขณะเดียวกันประชาชน โดยเฉพาะพนักงานและคนงานรัฐวิสาหกิจที่ถูกโอนกิจการ หรือขายกิจการก็ย่อมปรารถนาที่จะทราบปัญหาที่จะเกิดแก่ตัวพวกเขา
คนงานและพนักงานรัฐวิสาหกิจก็เช่นเดียวกับข้าราชการ และลูกจ้างของเอกชนย่อมจะต้องคิดถึงงานที่เขามีอยู่และทำอยู่ เมื่อจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในเรื่องตัวเจ้าของและฝ่ายบริหาร เขาย่อมนนึกถึงสภาพการจ้างงานใหม่ เขาย่อมนึกถึงสภาพการจ้างงานใหม่ เขาย่อมอยากทราบว่าการเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหารจะกระทบกระเทือนความมั่นคงในการทำงานอย่างใดหรือไม่
อายุงานที่มีอยู่จะมีผลอย่างไร
หากมีการกระทบกระเทือนทางราชการมีแนวทางจะดำเนินการอย่างไร
เช่นเดียวกับวิสาหกิจเอกชนที่รับโอนกิจการมาทำก็ย่อมมีสิทธิที่จะปรับปรุงการบริหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในการนี้อาจจะต้องมีการปลดโยกย้าย เปลี่ยนแปลงตัวบุคคลและสภาพการทำงานตามสมควร
ข้อเท็จจริงต่าง ๆ เหล่านี้ก็ชอบที่จะได้พิจารณากันล่วงหน้า กล่าวโดยสรุปทางราชการควรพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงให้แก่ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบแทนที่จะปล่อยให้เรื่องเงียบแล้วมาแก้ปัญหา เมื่อมีการเรียกร้องกันภายหลัง
ผู้เขียนเช่นเดียวกับประชาชนอีกมากสนับสนุนรัฐบาลปัจจุบันในการเร่งรัดปรับปรุงรัฐวิสาหกิจ แต่ก็ใคร่เห็นทางราชการได้พิจารณาปัญหาต่างๆ อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ โดยเฉพาะการตระหนักถึงปัญหาต่างๆ ที่จะกระทบกระเทือนถึงสภาพความเป็นอยู่และอนาคตของผู้เกี่ยวข้อง
การกระทำดังกล่าวนอกจากจะช่วยให้การแก้ปัญหาได้เป็นไปด้วยดีแล้ว ยังจะได้รับการสนับสนุนจากพนักงาน คนงาน และประชาชนอย่างทั่วถึง
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|